วันนี้ (7 พฤษภาคม 2561) เวลา 09.30 น. ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ มอบนโยบาย-ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขอให้ทำงานอย่างเท่าเทียมถูกต้องตามกฎหมาย เน้นพูดคุยเจรจาสม่ำเสมอกับเจ้าหน้าที่ชายแดนเพื่อนบ้าน ร่วมกันพัฒนาให้การค้าขายระหว่างประเทศดียิ่งขึ้น และรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานของจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม
ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ขอให้ทำงานโดยความเป็นธรรม ทำทุกอย่างด้วยความเท่าเทียมถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการทำงานกับเจ้าหน้าที่ชายแดนเพื่อนบ้านเน้นการพูดคุยเจรจาสม่ำเสมอ ร่วมกันพัฒนาให้การค้าขายระหว่างประเทศดียิ่งขึ้นไป โดยให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ทักทายพี่น้องประชาชนกลุ่มพัฒนาสตรีอำเภอกาบเชิง ที่มาให้การต้อนรับว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบ การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้หวังผลประโยชน์ทางการเมือง แต่มาเพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนเหมือนทุก ๆ จังหวัด และขอให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน นำเทคโนโลยีมาช่วยในการค้าขายออนไลน์ หาสินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมกับให้ค้นหาศักยภาพที่แตกต่างของแต่ละพื้นที่เป็นจุดขาย นำมาขยายต่อเชื่อมโยงสู่กลุ่มภูมิภาค อย่าให้ใครผูกขาดการค้าขาย ที่สำคัญต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของบุตรหลาน ขอให้ช่วยพ่อแม่ทำงาน ร่วมกันสร้างครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันที่ดี เป็นครอบครัวที่มีความสุขอย่างพอเพียง
วันนี้ (7 พฤษภาคม 2561) เวลา 11.00 น. ณ หมู่บ้านท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ แนะขอให้สร้าง Story ส่งเสริมจุดขาย คำนึงถึงการตลาดนำการผลิต
นายกรัฐมนตรี และคณะ เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณของบ้านจันทรโสมา บ้านท่าสว่าง พร้อมเยี่ยมชมผลงานของกลุ่มวิสาหกิจ กลุ่มแม่บ้านเกษตรปลูกหม่อนเลี้ยงไหม กลุ่มผู้สูงอายุ บ้านพญาราม และเยี่ยมชมผลงานของสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ทัพไทย จำกัด บ้านทัพไทย ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้นำช้างไทยแฝดเพศผู้คู่แรกของโลกชื่อ ทองคำกับทองแท่ง มาต้อนรับและมอบกระเช้าผักผลไม้ให้นายกรัฐมนตรี และแสดงการเล่นฮูลาฮูปให้ชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านท่าสว่าง และชุมชนโอทอป นวัตวิถี บ้านท่าสว่าง หมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวระหว่างการเยี่ยมชมและกล่าวพบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า ในเมื่อบ้านเรามีของดีต้องสร้างเรื่องราว (Story) ให้ชัด สร้างจุดขาย เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นนำมาสร้างนวัตกรรม พร้อมแนะให้บูรณาการด้านการขนส่ง ให้สามารถขายไปยังจังหวัดอื่นหรือต่างประเทศได้ และขอให้ใช้เทคโนโลยีรอบตัวให้เป็นประโยชน์ในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ อย่าคิดทำแค่วันนี้ ต้องคิดให้ถึงอนาคต ปูทางไว้ให้ลูกหลานด้วย พร้อมขอให้ส่งเสริมเรื่องการตลาดนำการผลิต ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องศึกษาความต้องการตลาดด้วย เช่น การเพาะปลูกก็ไม่ควรปลูกซ้ำ ๆ กัน เพราะจะเป็นการแย่งกันขาย แย่งรายได้กันเอง
ภายหลังการเยี่ยมชมและพบปะกับประชาชน นายกรัฐมนตรีและคณะได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับปราชญ์ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น โดยผู้แทนเกษตรกรจากหมู่บ้านทัพไทยได้จัดข้าวอินทรีย์สายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงและเป็นข้าวส่งออกของชุมชนจำนวน 4 สายพันธุ์ มาให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีร่วมรับประทานด้วย ได้แก่ ข้าวปะกาอำปึล ข้าวหอมมะลิ ข้าวผสม 5 สายพันธุ์ และข้าวกล้องมะลิแดง