แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการจัดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

     วันนี้ (๑ พ.ค.๖๐) เวลา ๐๙.๓๐ น. พลโท วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ และ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ครั้งที่ ๑) ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ ได้จัดประชุมกลุ่มย่อย (ครั้งที่ ๑) ที่ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา โดยเชิญผู้แทนประชาชนจาก ๔ กลุ่ม ได้แก่ ๑. กลุ่มการเมืองท้องถิ่น ๒. กลุ่มนักวิชาการ/นักศึกษา สื่อมวลชน และ ภาคประชาสังคม ๓. กลุ่มข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่ม/องค์กรที่ทำงานร่วมกับส่วนราชการ ๔. กลุ่มผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วไป ครั้งนี้เป็นกลุ่มมวลชนจาก จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดชัยภูมิ, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดมหาสารคาม, จังหวัดบุรีรัมย์ และ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๙๔ คน เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ผู้แทนของกลุ่มต่างๆ ที่ได้ให้ความคิดเห็นไว้ ได้ตรวจสอบร่างความคิดเห็นร่วมที่คณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะฯ ได้สรุปนั้นเป็นไปตามที่กลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ได้เสนอไว้หรือไม่ และเป็นการเปิดโอกาสที่จะให้ตัวแทนกลุ่มต่างๆ ได้ทบทวน เพื่อให้ข้อมูลมีความครบถ้วนสมบูรณ์

     การดำเนินการประชุมในครั้งนี้ ยังคงยึดหลักประชาชนเป็นศูนย์กลางและยึดหลักความเสมอภาคในการให้ความคิดเห็น โดยเจ้าหน้าที่จะอ่านร่างความคิดเห็นร่วมทั้ง ๑๐ ด้าน เป็นข้อๆ ให้ผู้แทนกลุ่มได้ตรวจสอบ และสามารถมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้เพื่อให้สรุปความคิดเห็นร่วมนี้เป็นข้อคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

     การประชุมกลุ่มย่อยเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดจัดการประชุม จำนวน ๓ ครั้ง ดังนี้

– ครั้งที่ ๑ ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครราชสีมา
– ครั้งที่ ๒ ในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุดรธานี
– ครั้งที่ ๓ ในวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องประชุมราชธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๑ อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุบลราชธานี

     เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ จะนำสรุปความคิดเห็นร่วมทั้ง ๓ แห่ง ส่งให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำเสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นฯ ต่อไป