กองทัพภาคที่ 2 จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2564

     พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย คุณ สุกัญญา แสงผล ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองทัพภาคที่ 2 ประธานจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2564 โดยมีคณะผู้บังคับบัญชา ข้าราชการหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมงานกิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตึกกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2, พิธีเจริญพระพุทธมนต์ จำนวน 10 รูป, พิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ณ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย จากนั้นได้เดินทางไปยังสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 (บุ่งตาหลั่ว) ในการเปิดการจัดกิจกรรมอาสาสาธารณประโยชน์โดยมีรูปแบบกิจกรรมในการสร้างความรัก ความสามัคคี กิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และกิจกรรมเผยแพร่พระเกียรติคุณตลอดห้วงเดือนธันวาคม 2564 ทั่วทุกหน่วยในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย แห่งราชวงศ์จักรี ทรงครองสิริราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 สิริรวมระยะเวลา 70 ปี นับว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย พระองค์ทรงปกครองราษฎรไทยด้วยน้ำพระราชหฤทัยงดงามเปี่ยมด้วยพระเมตตา ภายใต้ปฐมพระบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถและทรงเข้าพระทัยอย่างถ่องแท้ถึงความต้องการ ความเดือดร้อนและความจำเป็นของราษฎรของพระองค์ท่าน ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ พระองค์ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับการยกย่องจากยูเนสโกว่า พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์นักพัฒนา โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เป็นที่ประจักษ์ถึงพระวิริยะอุตสาหะในการทุ่มเทพระวรกายเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พระองค์จึงทรงเป็นที่เทิดทูนและเคารพของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ ด้านการทหารพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะต้องศึกษาค้นคว้าให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ดังพระบรมราโชวาทที่ว่า “กองทัพนั้น มีหน้าที่สำคัญหลักอยู่ที่การป้องกันประเทศ และการธำรงรักษาเอกราช อธิปไตยของชาติไว้ เหตุนี้ทุกเหล่าทัพจึงจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนให้สมบูรณ์ พร้อมทุกเมื่อทั้งในด้านยุทโธปกรณ์ที่มีความก้าวหน้า ทันสมัย และในด้านกำลังพลที่เข้มแข็ง องอาจเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครบถ้วน” (พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพไทย เมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2539)
     กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะที่ดำรงไว้ซึ่งการพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันสูงสุด และเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย จึงได้ยึดมั่นในภารกิจอันสำคัญยิ่ง ได้แก่ การถวายการรักษาความปลอดภัยและถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง จวบจนรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 รัชกาลปัจจุบัน วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี นอกจากจะตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีแล้ว รัฐบาลยังได้ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ จึงนับได้ว่าวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญของประเทศไทย และเป็นโอกาสที่พสกนิกรชาวไทยจะได้รำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของบูรพมหากษัตริย์ ที่ทรงปกป้องบ้านเมืองมาจนถึงทุกวันนี้